อย่าหาทำ! หมออินเดียเตือน ‘ขี้วัว’ ป้องกัน โควิด ไม่ได้

อย่าหาทำ! หมออินเดียเตือน ‘ขี้วัว’ ป้องกัน โควิด ไม่ได้

หมอในประเทศอินเดียออกมาเตือนประชาชนที่ใช้ ขี้วัว ทาตัวเพื่อป้องกัน โควิด ระบุว่ายังไม่มีหลักฐานพบว่าขี้วัวป้องกันโรคได้ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่แพทย์ในประเทศอินเดียได้ออกมาเตือนประชาชนที่ทาขี้วัวเพื่อป้องกันโรคโควิดว่าในขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าขี้วัวสามารถป้องกันโรคได้จริงตามที่มีการกล่าวอ้าง

โดยประชาชนในรัฐคุชราฏ รัฐทางตะวันตกของอินเดีย

เชื่อว่าการทาตัวด้วยของเสียจากวัวจะช่วยให้เพิ่มภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสและสามารถรักษาหายจากโรคได้ ซึ่งผู้ปฏิบัติจะรอให้มูลวัวแห้งและกอดวัวเพื่อเป็นการยกย่อง พร้อมฝึกโยคะเพื่อเพิ่มพลัง จากนั้นก็จะล้างตัวด้วยนมหรือบัตเตอร์มิลค์ จากการสัมภาษณ์ประชาชนที่ปฏิบัติตามความเชื่อดังกล่าวได้เล่าว่า แพทย์ในพื้นที่เองก็เข้ามาร่วมปฏิบัติตามความเชื่อนี้ด้วย โดยแพทย์คนดังกล่าวเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานและช่วยทำให้เขาสามารถรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้ง่ายขึ้น ขณะที่ผู้สัมภาษณ์ระบุว่าการอาบขี้วัวทำให้เขาสามารถหายป่วยจากโรคโควิดได้

ซึ่งตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ยกให้วัวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นสัญลักษณ์ของผืนดินและชีวิต โดยมีชาวฮินดูใช้มูลวัวทำความสะอาดและใช้ประกอบพิธีทางศาสนาต่าๆ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอินเดียขณะนี้ยังถือว่าวิกฤติหลังจากที่ยอดผู้ป่วยใหม่และผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง

ซึงหัวหน้าฝ่ายค้านเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสืบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมกล่าวประณามลูกชาย ส.ส. ว่านำชาวไทยเข้ามาในประเทศ ท่ามกลางวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และทำให้เธอต้องเสียชีวิตจากโรคดังกล่าว

ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอินเดียยังคงวิกฤติหนักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเทศอินเดียพบผู้ป่วยใหม่มากกว่า 3 แสนราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากกว่า 4 พันศพ

ตำรวจ จับ ชาวเมียนมา ห้าคน หลังจากที่ชาวเมียนมาที่ประกอบไปด้วยผู้สื่อข่าวและนักเคลื่อนไหว ลี้ภัยหนีกองทัพ หลังจากที่กองทัพก่อรัฐประหารตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการไทยได้เข้าควบคุมตัวสื่อมวลชนชาวเมียนมาและนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยรวมจำนวนห้าคนที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมตั้งข้อหาลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายให้กับผู้ต้องหาทั้งห้าราย

ซึ่งหากศาลไทยตัดสินให้จำเลยทั้งห้ามีความผิด จำเลยจะถูกส่งกลับประเทศเมียนมาทันที ซึ่งหลายฝ่ายได้แสดงความกังวล เนื่องจากมีนักข่าวถูกตั้งข้อหาและจับกุมจำนวนมากในประเทศเมียนมา นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าผู้ถูกจับกุมในประเทศเมียนมาจำนวนหนึ่งถูกทรมานร่างกายและทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตด้วย

ด้าน DVB ซึ่งเป็นสำนักข่าวต้นสังกัดของผู้ถูกจับกุมได้ร่อนจดหมายวอนรัฐบาลไทยอย่านำตัวผู้ถูกจับกุมกลับประเทศเมียนมา เนื่องจากอาจเป็นภัยถึงแก่ชีวิตได้ เช่นเดียวกันกับกลุ่ม ฮิวแมน ไรส์ วอทช์ กลุ่มเพื่อนสิทธิมนุษยชน ที่เรียกร้องให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวผู้ต้องหาและไม่ส่งชาวเมียนมาทั้งห้ากลับประเทศ

ขณะนี้การชุมนุมต้านรัฐประหารของ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ได้ดำเนินมานานกว่าร้อยวัน หลังจากที่การรัฐประหารเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งทางกองทัพได้ใช้ความรุนแรงปราบปราบผู้ชุมนุมหลายครั้ง จนเป็นเหตุใหม้ผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 700 ศพ

นอกจากนี้แล้วยังมีรายงานว่ามีประชาชนถูกจับกุมแล้วกว่า 5 พันคน ซึ่งในจำนวนผู้ถูกจับกุมนั้นมีนักข่าวรวมอยู่ด้วยกว่า 70 คน

ประท้วงอิสราเอล เดือด! จนท. ปะทะ ชาวปาเลสไตน์ เจ็บทะลุสองร้อยราย

สถานการณ์การ ประท้วงอิสราเอล ยังคงร้อนระอุอย่างต่อเนื่อง หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปะทะกับชาวปาเลสไตน์ ได้รับบาดเจ็บกว่าสองร้อยราย เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้าไปยังมัสยิดอัลอักศอ ในเขตเมืองเก่ากรุงเยรูซาเลมของอิสราเอล ส่งผลให้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวปาเลสไตน์จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 215 ราย และบาดเจ็บสาหัส 4 ราย

โดยรายงานระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม ขณะที่ชาวปาเลสไตน์ได้ขว้างปาก้อนหินเพื่อเป็นการโต้ตอบเจ้าหน้าที่ ซึ่งการปะทะกันครั้งนี้เกิดขึ้นในวันเดียวกันกับการเดินขบวนของชาวยิวเนื่องในวันเยรูซาเลม เพื่อรำลึกเหตุการณ์ที่อิสราเอลยึดครองเยรูซาเลมตะวันออก

ซึ่งหลายฝ่ายหวั่นกลัวว่าจะเกิดเหตุความรุนแรงขึ้นอีก เนื่องจากชาวปาเลสไตน์มองว่าการเดินขบวนดังกล่าวถือเป็นการยั่วยุ

ความรุนแรงในครั้งนี้ถือเป็นความรุนแรงที่ต่อเนื่องเป็นวันที่สาม หลังจากที่ชาวปาเลนสไตน์ไม่พอใจการฟ้องขับไล่ครอบครัวชาวปาเลสไตน์ในเขตเชคจาร์ราห์ ซึ่งชาวปาเลสไตน์มองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวในพื้นที่จาร์ราห์ ตลอดช่วงเวลาสามวันที่ผ่านมามีชาวปาเลสไตน์ได้รับบาดเจ็บแล้วหลายร้อยราย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลได้รับบาดเจ็บ 20 นาย

สนามบินซานฟราน ในประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศ ฉีดวัคซีน ให้ผู้โดยสารทั้งจากเที่ยวบินในประเทศและนอกประเทสทุกคนฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม สนามบินซานฟรานซิสโก ในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กเปิดเผยว่าทางสนามบินจะฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้ผู้โดยสารทุกคนฟรี ไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารที่เดินทางจากเที่ยวบินทั้งในประเทศหรือระหว่างประเทศ

เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง